วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อเมริกาออกกฏหมายใหม่ ปรับคนเดินเล่นโทรศัพท์มือถือ! iphone


iphone  – ก็เพราะว่ายุคสมัยของสมาร์ทโฟน และโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คเดี๋ยวนี้เดินไปทางไหน ไม่เห็นคนหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป ไม่ก็นั่งแชท บางคนก็หยิบไอแพดขึ้นมาถามทาง โลกเราดูใกล้เคียงกับภาพยนตร์ไซไฟขึ้นทุกที

แต่เทคโนโลยีก็ใช่ว่าจะให้ประโยชน์อยู่ด้านเดียวเสียหมด ที่เมือง Fort Lee ในรัฐ New Jersey ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกข้อบังคับใหม่ห้ามคนเดินถนนทั่วไป เล่นหรือพิมพ์โทรศัพท์มือถือ  ใครฝ่าฝืนก็จะโดนโทษปรับทันที $85 หรือราว 2,550 บาท

ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวก็ออกมาเพื่อความปลอดภัยของพลเมืองชาว Fort Lee โดยเฉพาะ จากตัวเลขอุบัติเหตุทางถนน กว่า 20 คดี ที่ผู้คนมัวแต่เล่นสมาร์ทโฟน ไม่สนใจถนนหนทาง  ซึ่งกฏหมายดังกล่าวที่มีผลบังคับใช้ไปแล้วนั้น มีผู้ลองดีโดนใบสั่งไปแล้วถึง 117 รายทีเดียว !!

ไขปริศนาบริษัท Apple กับ 6 สูตรสำเร็จ ที่ “คนคิดก็อยากมีไว้ใช้” ?


Apple – ทิม บาจาริน ประธาน บริษัท ครีเอทีฟ สตราทิตี้ บริษัทวิเคราะห์ภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการตลาดแห่ง silicon valley ซึ่งผ่านการพูดคุยกับผู้บริหารระดับต่าง ๆ ใน Apple Inc. มาอย่างโชกโชน อาสาถ่ายทอดปริศนาความสำเร็จของแอปเปิ้ลผ่านเว็บไซต์ Time

ซึ่งแม้หลายฝ่ายจะพยายามทำความเข้าใจว่าทำไม Apple  ถึงพ่ายแพ้ในสมรภูมิ PC  ให้กับ Microsoft ก่อนปรับกลยุทธ์สู่โปรดักส์อย่าง iPod และ iPhone จนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด แต่ ทิม สามารถถ่ายทอด บทสรุปออกมาได้กว่า 6 ข้อ  ที่คุณไม่ควรพลาด!!


1 . ผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ Apple สร้างขึ้น ต้องเป็นสิ่งที่แม้แต่คนคิดค้นก็อยากมีเอาไว้ใช้

“ทิม” อธิบายว่า หลายครั้งที่มีโอกาสทำโปรเจ็กต์ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยี เขาพบว่า เป้าหมายมักตั้งอยู่บน “นวัตกรรม” ด้านเทคโนโลยีเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงมาคิดต่อว่า คนจะอยากใช้ผลิตภัณฑ์หรือไม่ วิศวกรทั้งหลายมักลุ่มหลงกับเทคโนโลยี และสร้างสิ่งต่าง ๆ เพียงเพราะสามารถทำมันขึ้นมาได้ แต่วิศวกรของ “แอปเปิล” สร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ของตนเองอย่างแท้จริง มี “สตีฟ จ็อบส์” เป็นหัวหอกในฐานะ “ผู้ใช้”

ผลิตภัณทุกตัวจึงตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ ว่า ตอบโจทย์สตีฟ จ็อบส์ และบรรดาวิศวกรทั้งหลายที่ทำตัวเป็นลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์นั้นต้องเป็นอะไรที่พวกเขาไม่สามารถขาดได้ในชีวิตประจำวัน


2. ต้องใช้งานง่าย

“สตี ฟ จ็อบส์” เข้มงวดกับเรื่องนี้มาก แม้ “ดีไซน์” จะมีความสำคัญ แต่หากไม่สามารถนำมาใช้งานได้ง่ายจะโดนตราหน้าว่า “ไร้ค่า” ทันที เรื่องนี้เป็นสิ่งผลักดันการออกแบบที่เรียกวา “ยูสเซอร์ อินเตอร์เฟซ” ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ยังเป็นคำขวัญประจำใจวิศวกรซอฟต์แวร์และ ฮาร์ดแวร์ของแอปเปิล ผลิตภัณฑ์ ทุกตัวต้องให้ความรู้สึกว่า “ใช่” ง่ายต่อการทำความเข้าใจ

และเรียนรู้ ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น “ผู้ใช้” ต้องการคุณสมบัติที่มากขึ้น บางครั้งการรักษา “ความง่าย” จึงเป็นเรื่องยาก มากกว่า นั้น “แอปเปิล” ยังสร้างอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน ตั้งแต่มืออาชีพไปจนถึงมือสมัครเล่น ทำให้นิยามการใช้งานง่ายกว้างขึ้นไปอีก แอปเปิลเป็นบริษัทเดียวที่มองเรื่องการใช้งานง่ายมาก่อนเรื่อง ผลิตภัณฑ์ และทำให้เป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับการสร้างผลิตภัณฑ์ทุกตัวออกสู่ตลาด .


3.  ทำอะไร ๆ ให้ง่ายเข้าไว้


“ทิม” เล่าว่า เคยเข้าไปพูดคุยกับผู้ประกอบการโทรคมนาคมในฝรั่งเศสหลายราย หัวข้อสนทนาไม่วายวกมาเรื่องการหาทางแข่งขันกับ “แอปเปิล” เมื่อ ถึงคำถามที่ว่า ทำไมแอปเปิลถึงประสบความสำเร็จนัก ผู้บริหารคนหนึ่งแสดงความเห็นว่า เหตุผลหลักมาจากการที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์แค่ตัวเดียว โดยยกตัวอย่าง “ไอโฟน”

ซึ่งทำให้ผู้บริโภคลดกระบวนการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากแอปเปิลทำให้อะไร ๆ ง่าย ผู้บริหารคนดังกล่าวว่า ในร้านเขามีโทรศัพท์ที่แตกต่างกันถึง 25 รุ่น พนักงานต้องพบความยากลำบาก เนื่องจากต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทุกรุ่น ผู้บริโภคมีตัวเลือกให้ต้องตัดสินใจมากเกินไปขณะที่แอปเปิลมี “ไอโฟน” เพียงตัวเดียว

ทุกคนที่เดินเข้า “แอปเปิล สโตร์” รู้ว่า พนักงานมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หลักเป็นอย่างดี แม้การมีไอโฟนให้เลือกเพียงแบบเดียวเหมือนจำกัดตัวเลือกของผู้บริโภค แต่ผลกลับออกมาตรงกันข้าม ผลวิจัยจากบริษัทครีเอทีฟ สแตรทิจีส์ ระบุว่า ผู้บริโภคชื่นชอบการมีตัวเลือกก็จริง แต่ต้องการให้กระบวนการเลือกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีมีความง่ายดาย ไม่ซับซ้อน เนื่องจากมีอะไรให้เลือกมากเกินไป คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในตลาดมีลูกค้าที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ซึ่งต้องการตัวเลือกหลากหลาย และซับซ้อนในบางครั้ง

แต่ จากประสบการณ์ในฐานะนักวิเคราะห์ตลาด “ทิม” มองว่าผู้ใช้หลักไม่ใช่กลุ่มที่ชื่นชอบเทคโนโลยี การทำอะไรให้ง่าย ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนี้จึงเป็นบวก “แอปเปิล” เข้าใจ และไม่เคยพยายามเพิ่มแบบให้ไอโฟน, ไอแพด หรือสร้างไอพอดให้มีมากกว่า 1-2 แบบ ผู้บริโภคพึงพอใจกลยุทธ์นี้ เมื่อดูจากยอดขายมหาศาลของอุปกรณ์ตระกูล “ไอ” ในแต่ละปี


4. นำเสนอการบริการลูกค้าและประสบการณ์ระดับท็อป

“สตี ฟ จ็อบส์” เข้าใจถึงปัญหาหลักของตลาดเทคโนโลยี นั่นคือ แม้คุณจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ง่ายแค่ไหน แต่ผู้บริโภคที่นำผลิตภัณฑ์ไปใช้ในลักษณะแตกต่างกันมักเกิดความยุ่งยากตามมา ทำให้ผู้บริโภคทุกระดับต้องการความช่วยเหลือเป็นระยะ “แอปเปิล” ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เน้นความง่ายทำให้พนักงานมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี สังเกตได้จากการที่พนักงานขายมักไม่ถามว่า “ต้องการให้ช่วยอะไรไหม” แต่จะถามประมาณว่า “วันนี้คุณต้องการทำอะไร ?” แทน

ซึ่งเป็นคำถามหลักที่อยู่ในหัวลูกค้าที่มาที่ร้าน หลังลูกค้าอธิบายความต้องการของตนเองแล้ว พนักงานจะจัดการให้เห็นเลยไม่ก็ต่อสายตรงให้คุยกับผู้เชี่ยวชาญ ไม่ ต้องสงสัยว่า 50% ของคนที่ซื้อผลิตภัณฑ์แอปเปิลเป็นลูกค้าใหม่ จึงต้องทำให้ใช้งานและทำความเข้าใจได้ง่าย หากมีปัญหาก็จัดการให้ได้รวดเร็วที่ร้านค้าปลีกหรือการคุยโทรศัพท์ได้ .


5. Apple จะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ถ้าเชื่อว่าทำออกมาได้ดีกว่าของเดิมเท่านั้น

ปกติ แล้วแอปเปิลไม่ได้เป็นผู้ประดิษฐ์สินค้าหรือสายผลิตภัณฑ์ใหม่ แม้ในครั้งแรกบริษัทนี้จะเป็นผู้สร้างเครื่องพีซีสำหรับผู้บริโภคเครื่องแรก และออกเครื่อง แมคที่พัฒนายูสเซอร์อินเตอร์เฟซของพีซีให้เป็นรูปกราฟิก อันเป็นต้นกำเนิดการใช้เมาส์ แต่ หลังจากนั้นผลิตภัณฑ์ทุกตัวมีแต่นำของเก่ามาเล่าใหม่ แอปเปิลไม่ได้เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องเล่น MP3 แค่นำมาปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนและแท็บเลต

“โจนาธาน ไอฟ์” นักออกแบบของ “แอปเปิล” ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า “เป้า หมายของเราง่ายมาก มันคือการออกแบบและทำผลิตภัณฑ์ให้ดีกว่าเดิม ถ้าหากทำให้อะไรบางอย่างดีขึ้นกว่าเดิมไม่ได้ก็จะไม่ทำมัน แค่นั้นเอง” บทเรียนเรื่องนี้ “แอปเปิล” น่าจะได้จากการสร้าง “ไอพอด” จากนั้นจึงนำมาปรับใช้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเลตในเวลาต่อมา


6. Apple จะวางจุดยืนให้นำคู่แข่งอย่างน้อย 2 ปี


ข้อ นี้เป็นปัจจัยที่ทำให้คู่แข่งหวาดกลัวมากที่สุด เพราะขณะที่คู่แข่งกำลังจะออกผลิตภัณฑ์ที่พอจะแข่งขันด้วยได้ “แอปเปิล” ก็เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีกำหนดวางตลาดในอีก 2 ปีข้างหน้าแล้ว เช่น ไอโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งน่าจะวางตลาดในเดือน ต.ค.ปีนี้ น่าจะมีการออกแบบและเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ส่วน “ไอโฟน” ที่กำลังพัฒนาอยู่ตอนนี้น่าจะมีกำหนดออกสู่ตลาดในฤดูใบไม้ร่วงปี 2557 เช่นเดียวกับ “ไอแพด” ใหม่ที่ได้พัฒนาเสร็จสิ้นไปตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้น่าจะมีกำหนดคลอดในปี 2558 ประเด็นนี้ถือเป็นฝันร้ายสำหรับคู่แข่ง และคงเป็นแบบนี้ต่อไปอีกสักพัก

“ทอม” เสริมอีกว่า นอกจาก 6 ข้อข้างต้นแล้ว “แอปเปิล” ยังลงทุนด้านการประดิษฐ์ชิ้นส่วน, กระบวนการผลิต และอื่น ๆ อีก ทั้งมีซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยม, การออกแบบที่ดี และระบบนิเวศด้านเนื้อหาแอปพลิเคชั่น รวมถึงการบริการที่ช่วยทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ  อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า 6 ข้อข้างต้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมากที่สุด และ ตราบใดที่ “แอปเปิล” ยังเชื่อในหลักง่าย ๆ ทั้ง 6 ข้อต่อไป มันก็จะยังเติบโต และกินส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินค้าที่บริษัทเข้าไปแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง .

9 อันดับประเทศที่อินเตอร์เนตเร็วสุดในโลก !! Internet Speeds



Internet Speeds -
Akamai 
บริษัท ซึ่งทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลการใช้งานอินเตอร์เนตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก ได้รายงานถึงประเทศที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตที่เร็วและช้าที่สุดออกมา  โดยแยกความแตกต่างด้านกายภาพ ภูมิศาสตร์ และตัวแปร ต่างๆ ออกจากกัน เพื่อความเป็นธรรม ก่อนรายงานประเทศที่มีความเร็วอินเตอร์เนตเร็วที่สุด 9 อันดับ ได้แก่


…. มีประเทศที่คุณคิดไว้บ้างหรือเปล่านะ? ><

#9: Romania


Average Connection Speed: 6.4 Mbps Change
From Last First Quarter: 3.4 percent slower

#8: Czech Republic


Average Connection Speed: 6.7 Mbps Change
From Last First Quarter: 7.3 percent slower

#7: Ireland


Average Connection Speed: 6.8 Mbps Change
From Last First Quarter: 3.6 percent slower

#6: Switzerland


Average Connection Speed: 7.3 Mbps Change
From Last First Quarter: 2.9 percent slower

#5: Latvia

Average Connection Speed: 7.8 Mbps Change
From Last First Quarter: 12 percent slower

#4: Netherlands


Average Connection Speed: 8.2 Mbps Change
From Last First Quarter: 3.2 percent slower

#3: Hong Kong


Average Connection Speed: 9.1 Mbps Change
From Last First Quarter: 14 percent slow

#2: Japan


Average Connection Speed: 9.1 Mbps Change
From Last First Quarter: 2.3 percent faster

#1: South Korea


Average Connection Speed: 17.5 Mbps Change
From Last First Quarter: 4.7 percent faster

9 อันดับประเทศไวรัสอินเตอร์เนตมากที่สุดโลก !! Internet Security Threat


Internet Security Threat – รายงาน security software firm จาก  Symantec เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา มีตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่มักเป็นแหล่งแพร่กระจายมัลแวร์

พบว่าเว็บไซต์เกี่ยวกับศาสนาเป็นแหล่งกระจายมัลแวร์อันโอชะ มากกว่าเว็บไซต์ลามกอนาจาร  ถึง 3  เท่า ตัวเลขเฉลี่ย 115 ภัยคุกคามบนเว็บไซต์ศาสนา ขณะที่พบเพียง 25 ภัยคุกคามบนเว็บไซต์ลามกอนาจาร


มุลเหตุที่พบภัยคุกคามบนเว็บไซต์ลามกอนาจาร น้อยกว่าบนเว็บไซต์ศาสนา ทั้งที่มีโฆษณาเต็มไปหมดนั้น ก็เพราะตัวเลขโฆษณาบนเว็บไซต์ลามกเหล่านั้น แสดงให้เห็นถึงตัวเลขทางการตลาด  ความเป็นธุรกิจ จึงจำเป็นต้องเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นนั่นเอง

… ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนไปถึงอะไรใน 10 ประเทศ ที่เป็นแหล่งเพาะไวรัสอินเตอร์เนตชั้นดี ด้านล่างนี้บ้างนะ ?


 Top 10  Spam Countries


#9: Pakistan


Pakistan relays 3.3 percent of all spam.

#8: Poland


Poland relays 3.9 percent of all spam.

#7: Brazil


Brazil relays 4.3 percent of all spam.

#6: Italy


Italy relays 4.9 percent of all spam.

#5, Tied: Russia


Russia is tied with Indonesia for fourth place, relaying 5 percent of all spam.

#4, Tied: Indonesia


Indonesia is tied with Russia for fourth place, relaying 5 percent of all spam.

#3: South Korea


South Korea relays 5.7 percent of all spam.

#2: United States


The United States relays 8.3 percent of all spam.

#1: India



India relays a whopping 9.3 percent of all spam to computers across the world

9 อันดับประเทศอินเตอร์เนตโครตกากที่สุดในโลก !! Slow Internet Speeds


Slow Internet Speeds - ได้รับชมบทสรุปประเทศที่ความเร็วอินเตอร์เนตสปีดเทพไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนใคร่รู้ประเทศไหน?  ไม่น่าพิศมัยสำหรับชาวเน็ตเวิร์คทั่วโลกมากที่สุด ชมบทสรุปส่งท้ายกับ 9 ประเทศ ที่อินเตอร์เนตอภิมหากาก ( Slow Internet Speeds ) ล่าสุด ผลสำรวจโดย  Akamai เจ้าเดิม !!

#9: Kazakhstan


Percent below 256 kbps: 16 percent Change from last quarter: 4.2 percent decrease

#8: Indonesia


Percent below 256 kbps: 19 percent Change from last quarter: 13 percent decrease

#7: Syria


Percent below 256 kbps: 19 percent Change from last quarter: 10 percent increase

#6: Bolivia


Percent below 256 kbps: 25 percent Change from last quarter: 22 percent decrease

#5: India


Percent below 256 kbps: 27 percent Change from last quarter: 5.6 percent decrease

#4: Iran


Percent below 256 kbps: 30 percent Change from last quarter: 6.0 percent decrease

#3: Nigeria


Percent below 256 kbps: 31 percent Change from last quarter: 16 percent decrease

#2: Nepal


Percent below 256 kbps: 32 percent Change from last quarter: 4.0 percent decrease

#1: Libya


Percent below 256 kbps: 52 percent Change from last quarter: 5.7 percent decrease

ที่มารอยแหว่งโลโก้แอปเปิ้ลเป็นแบบนี้นี่เอง!! Apple


Apple – แฟนๆ แอปเปิ้ลเคยรู้บ้างหรือเปล่า?  ว่ารอยแหว่งบนโลโก้แอปเปิ้ลมาจากสาเหตุใด? บ้างว่าไอเดียมาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล Adam กับ EVE ซึ่ง Apple แสดงถึงต้นไม้แห่งความรู้ ตอนแรกเป็นผลเกลี้ยงสตีฟ ไม่ค่อยปลื้มเพราะมันดูเหมือนส้มเกินไป จึงเพิ่มรอยกัดเข้ามา

บ้างก็ว่า Apple นั้น เป็นพยัญชนะตัวแรกในภาษาอังกฤษ คนที่ค้นหาชื่อผลิตภัณฑ์จาก directory ทั้งหลาย จะพบกับ Apple ก่อน IBM ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ตลอดกาลในช่วงที่สตีฟ เริ่มเข้าสู่วงการ



อีกเหตุผลหนึ่ง คนดีไซน์กลัวไม่รู้ว่าเป็นแอปเปิ้ล อาจดูเป็นลูกเชอร์รี่ เลยใส่รอยแหว่งเข้าไป เหมือนโดนกัด ออกเสียงว่า  Byte และบังเอิญไปเป็นหน่วยข้อมูลของคอมพิวเตอร์ด้วยในยุคนั้น  จึงเป็นโลโก้ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ขณะเดียวกันก็บอกกันว่า Apple อุทิศโลโก้นี้ให้กับ Alan Turing นักคณิตศาสตร์ระดับโลก และเป็นหนึ่งในบิดาของวงการคอมพิวเตอร์ ซึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกัดลูก Apple เคลือบสารไซยาไนต์จนเสียชีวิตเลียนแบบนิทานเรื่อง Snow White อย่างไรก็ดีเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อาจจะเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา เพราะรอยแหว่งแอปเปิ้ลที่แท้จริงอาจมาจากภาพด้านล่างนี้นี่เอง!!

อามิตตาพุทธ หลุด OPPO 6.65 mm บางสุดในโลกหล้า!!



OPPO 6.65 mm - OPPO เพิ่งปล่อย Find 3 ลงตลาดได้ไม่นาน แต่ดูเหมือนการชิมลางตลาดแอนดรอยด์จะถูกปาก  เพราะท่ามกลางข่าวหลุดลอย ของตัว Samsung Galaxy S III และเจ้าอื่นๆ ที่เน้นไปอัดกันทีซีพียู 4 คอร์ แหล่งข่าวจากจีน 花朵3GS ก็ปล่อยภาพ android ตัวใหม่ของ OPPO ที่มาพร้อมกับความบางเพียง 6.65 มิลลิเมตรเท่านั้น ชนะเจ้า Huawei Ascend P1 S ที่หนามากกว่า0.03 มิลลิเมตร ไปได้อย่างฉิวๆ

ขณะที่หลายคนสงสัยว่ามันใช่ OPPO จริงหรือเปล่า เมื่อซูมเข้าไปส่อง UI ใกล้ๆ หน้าตาของมันไม่ผิดจาก OPPO Find ตัวพี่ นอกจากนี้ ดูเหมือนมันยังมาพร้อมกับ  หน้าจอ gorilla glass  อีกด้วย งานนี้ไม่รู้ว่าเรือธงค่ายอื่นๆ จะหนาวๆ ร้อนๆ กับน้องบางเฉียบที่สุดในโลกหล้า ตัวนี้บ้างหรือเปล่านะ ?

กรุงเทพฯ คือ เมืองที่ผู้ใช้ facebook มากสุดในโลก !!

กรุงเทพฯ คือ เมืองที่ผู้ใช้ facebook มากสุดในโลก !!

หมวด » Application

facebook - กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์

… ชาวไทยหัวใจเฟสบุุ๊ค ตกใจใช่ไหม? เพราะกรุงเทพฯ ของพวกเรา คือ เมืองที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คมากที่สุดในโลก คือ 8 ล้านคน หรือ  มากกว่า 50%  ของชาวไทยทั้งประเทศ เล่นเฟสบุ๊คในกรุงเทพฯ  ส่วนประเทศที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คมากที่สุดในโลกตกเป็นของอเมริกา ว้าว!! ชาวกรุงเทพฯ หัวใจโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมากๆ เลยนะเนี่ย !!  >O<

ดาบสองคม สังคมออนไลน์..เฟสบุ้ค ทวิตเตอร์ คิดให้ดีก่อนโพสท์

Mthainews: สังคมไซเบอร์ปัจจุบัน การสื่อข้อมูลข่าวสารนั้น สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว การเผยแพร่ข้อมูลต่างๆทำได้หลายช่องทาง เปรียบเสมือนผู้ใช้เป็นผู้รายงานข่าว บล็อกเกอร์ และผู้อ่าน ไปในคราวเดียวกัน ยิ่งปัจจุบันสังคมออนไลน์เปิดกว้าง เพื่อนสมาชิก แม้ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง แต่สามารถเห็นความเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ได้
แน่นอนว่าข้อดีของวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ย่อโลกให้เล็กลง สามารถพูดคุย แชท ได้สะดวกรวดเร็ว เพราะมีโปรแกรมต่างๆมากมายให้เลือกใช้  อย่างเอ็มเอสเอ็น เฟสบุ้ค ทวิตเตอร์ สไกท์ อินสตาแกรม และอื่นๆที่พ่วงมากับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด ก็ไม่พลาดการสื่อสาร สามารถเสพข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น
แต่ทั้งนี้ บนโลกออนไลน์ก็มีข้อจำกัดในเรื่องการสื่อสารอยู่บ้างคือ การไม่ได้ฟังน้ำเสียง สีหน้า แววตา ซึ่งเป็นอากัปกิริยาของผู้ส่งสาร อาจทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ของคนที่ต้องการจะสื่อได้  มีตัวอย่างไม่น้อยที่เพื่อนรักหลายคนทะเลาะกันเพียงเพราะเข้าใจผิด และสับสนว่าข้อความที่โพสท์ขึ้นในเฟ้สบุ้ค ทวิตเตอร์ กำลังด่า ว่า ประชด บ่น หรือ อะไรกันแน่ เปลี่ยนสถานะเพื่อนรักกลายเป็นคนรู้จักได้ในชั่วข้ามคืน


ที่เป็นข่าวฮือฮาช่วงสัปดาห์นี้ ก็เห็นจะเป็นการโพสท์เฟ้สบุ้คของดาราสาว ตั๊ก บงกช ที่แม้ว่าเธอจะโพสท์ข้อความในเฟสบุ้คส่วนตัวก็ตาม แต่ในฐานะดารานักแสดง มีผู้ติดตามอ่านอยู่ไม่น้อยเป็นเหตุให้ข้อความที่กล่าวถึงอากง  เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จนถึงขั้นกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ชลบุรี โห่ไล่ จนกลายเป็นปัญหาตามมา
ตามมาติดๆกับบุคคลใช้ชื่อในทวิตเตอร์ @fookkub ที่อ้างว่าเป็น ฟลุค พชร ธรรมมล หรือ ฟลุค เดอะสตาร์ ออกมาทวิตข้อความถึงกรณีดังกล่าวอย่างดุเดือด ากรณีการเสียชีวิตของ นายอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ต่างจากกรณีของตั๊ก บงกช